คำอำนวยพร 11 มิถุนายน 2565 (ไม่มีอรุณสวัสดิ์)

ขอนำส่งการแบ่งปันเกี่ยวกับคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" บทที่ 53 และคำอำนวยพรในเดือนแห่งอู๋เหวย
[วิกฤติใหญ่ที่สุดของชีวิตคือการเบี่ยงเบนจากวิถีที่ถูกต้อง]
วิกฤติใหญ่ที่สุดของชีวิตคือการเบี่ยงเบนจากวิถีที่ถูกต้อง สิ่งที่ต้องระวังที่สุดคือพฤติการณ์ที่ไม่มีเต๋า
“กลัวที่สุดคือเดินทางผิด”
ประโยคนี้หมายความว่า เพราะเกรงว่าสิ่งที่ตนทำจะผิด ฝ่าฝืนเต๋าและห่างเหินคุณธรรม ดังนั้น จึงยกระดับความระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา มีจิตเคารพยำเกรงอยู่เสมอ นี่คือ “กลัวที่สุดคือเดินทางผิด”
เต๋าให้กำเนิดฟ้าดิน หล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง มีแต่ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน แม้จะไม่เปิดเผยผลงานและชื่อเสียง แต่สรรพสิ่งไม่มีวันออกห่างจากเต๋า คนเราใช้ชีวิตในโลก อยู่ที่บ้านได้รับบุญคุณจากบิดามารดา ทำงานได้รับบุญคุณจากธุรกิจ เมื่อประสบความสำเร็จได้รับบุญคุณจากประเทศ คนเราดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางการมอบอุทิศของสรรพชีวิตอยู่ตลอดเวลา แต่เราได้ให้อะไรแก่โลกบ้าง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเคยได้รับ ข้าวปลาอาหารทุกจานเราล้วนต้องเคารพยำเกรง ต้องตอบแทนบุญคุณของสรรพชีวิต นี่คือหน้าที่ของมนุษย์
มนุษย์มีภูมิปัญญามากพอที่จะหาจุดสมดุลระหว่างการสร้างสรรค์สิ่งใหม่กับการรักษาความถูกต้องได้ การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่แท้จริง ต้องได้เก็บเกี่ยวอันอุดมสมบูรณ์ทั้งในด้านวัตถุและจิตใจแน่นอน การพัฒนาที่แท้จริง ต้องไม่แลกกับการทำร้ายชีวิตและระบบนิเวศ มิฉะนั้น ยิ่งสร้างสรรค์สิ่งใหม่ จิตวิญญาณของเราจะยิ่งขาดแคลน ยิ่งพัฒนา สภาพแวดล้อมที่ดำรงชีวิตอยู่ยิ่งเลวร้าย หากมองย้อนไปที่ประวัติศาสตร์การพัฒนาร่วมสมัยจะพบว่า พฤติกรรมของมนุษย์ได้สร้างภาระให้โลกมากมายเหลือเกิน ส่วนสภาพแวดล้อมที่ถูกทำลายยังย้อนมาเกี่ยวพันกับอนาคตของมนุษย์ ทำให้เราตกอยู่ในวงจรที่ไม่อาจแก้ไขได้
วิกฤติใหญ่ที่สุดในชีวิตคนเราคือการเบี่ยงเบนจากวิถีที่ถูกต้อง สิ่งที่ต้องระวังที่สุดคือพฤติการณ์ที่ไม่มีเต๋า การสร้างสรรค์สิ่งใหม่คือเรื่องปกติและจำเป็น แต่จะทำตามอำเภอใจตามแรงขับเคลื่อนของความทะยานอยากมิได้ “การกระทำ” จะยืนอยู่บนผลประโยชน์เฉพาะหน้าและส่วนบุคคลไม่ได้ ยังต้องคำนึงถึงคุณประโยชน์ของส่วนทั้งหมดและระยะยาวด้วย แม้จะเป็นการ “กระทำ” เหมือนกัน แต่หากจุดเริ่มของความคิดต่างกัน ผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ในโลกนี้ไม่มีใครมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวดังเกาะร้างกลางมหาสมุทรได้ เราทุกคนต่างเหมือนดินก้อนหนึ่ง มีเพียงการเชื่อมต่อกัน จึงก่อเกิดเป็นแผ่นดินใหญ่ได้ ผู้มีภูมิปัญญา จะไม่วัดผลประโยชน์ด้วยผลได้เสีย และจะไม่ใช้ความสำเร็จหรือล้มเหลวมาประเมินค่าของตนเอง เขาจะใส่ใจเพียงว่าชีวิตได้เติบโตขึ้นหรือไม่ ตนเองเดินอยู่บนวิถีที่ถูกต้องหรือไม่ หากเราไม่คิดเล็กคิดน้อยเรื่องผลได้เสีย ชีวิตยังมีอะไรที่ไม่อาจเอาชนะได้
เมื่อคนเราตระหนักถึง “กลัวที่สุดคือเดินทางผิด” จึงจะยกระดับความละอายใจและเคารพยำเกรงได้ ความละอายใจช่วยยกระดับชีวิตให้สูงขึ้นและเปลี่ยนแปลงได้ ความเคารพยำเกรงช่วย ให้พฤติกรรมมีความสง่าผ่าเผยน่าเกรงขามได้ ทุกคนล้วนอยากมีชีวิตที่มีความสุข กุญแจสำคัญของความอิสรเสรีสมบูรณ์แบบคือการมอบความรัก ใส่ใจแต่การทำงาน ไม่คาดหวังผลตอบแทน
อาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ
วันที่ 11 มิถุนายน 2565
(เผยแพร่วันที่ 1588)
* * *
11人生最大的危机是偏离正道
《道德经》第53章暨无为月11
人生最大的危机是偏离正道,最要警惕的是不道行径。
原文:“唯施是畏。”
“施”指行为;“畏”指畏惧。这句话表示,唯恐自己的所作所为行差就错、背道离德,所以时刻提高警惕,常怀敬畏之心。这就是“唯施是畏”。
大道生天地、养万物,只布施而不求回报;虽然藏功匿名,但万物永远离不开它。人生在世,在家受父母恩,做事受企业恩,成就受国家恩,人始终在众生的布施中存活,但我们给世界带去了什么?我们接受了一切布施,一粥一饭皆要敬畏,众生之恩都要回报,这是人的本分。
人类有足够的智慧,能在创新与守正之间取得平衡。真正的创新,一定是物质与精神的双丰收;真正的发展,一定不会以伤害众生、伤害生态为代价。否则,越创新,我们的心灵越匮乏;越发展,生存的环境越恶劣。纵观近代发展史,就会发现:人类的行为已经让地球不堪重负;而环境的破坏,又反过来牵扯着人类的未来,让我们陷入无解的死循环。
人生,最大的危机是:偏离正道;最要警惕的是:不道行径。创新是正常的,也是必须的,但不能在贪欲驱动下的妄作非为。“为”不能只站在个体的、眼前的利益上,还要从整体的、长远的利益上考虑。同样是“为”,发心不同,结果也截然不同。
世间,无人能活成一座孤岛,在大海里独居。我们都像一块泥土,只有相互连接,才能形成大陆。有智慧的人,不会拿得失来衡量利益,也不会拿成败来评价自己。他只关注生命是否成长?自己是否走在正道上?我们若不计较得失,人生还有什么不能克服的?
人若有“唯施是畏”的警觉,才会升起惭愧与敬畏。惭愧,能让生命升华蜕变;敬畏,能让行为庄严厚重。人人都想拥有幸福的人生,自在圆满的关键是:布施大爱,只问耕耘,不求回报。
赵妙果,2022年6月11日,第1588天