คำอำนวยพร 18 พฤศจิกายน 2564

** การฝึกฝนให้สามารถ "ถึงไม่ออกนอกบ้าน ก็รู้เรื่องทั่วหล้า ไม่มองออกข้างนอก ก็รู้กฎธรรมชาติ" ต้องมีหลักการพื้นฐานประการหนึ่ง คือเริ่มทำจากเรื่องเล็ก เริ่มต้นจากคัมภีร์เต้าเต๋อจิงบทที่ 1 อย่างเอาจริงเอาจัง และเริ่มสั่งสมจากการฝึกปฏิบัติคุณสมบัติเต๋า ในคัมภีร์บทที่ 1 ท่านเหลาจื่อได้เสนอแนวคิดสูงสุดเท่าที่มีในประวัติศาสตร์ แนวคิดนั้นคือ "เต๋า" แม้เต๋าจะไร้รูปลักษณ์ แต่ดำรงอยู่จริง และมีความอัศจรรย์ใช้ได้ไม่หมดสิ้น ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดในการดำเนินชีวิต การดูแลครอบครัว การใช้ชีวิตในสังคม รวมถึงกฎธรรมชาติ ล้วนถือเป็น " 'ไม่มี' สำรวจลี้ลับเต๋าได้" เมื่อมีทักษะในการศึกษาประยุกต์ใช้อย่าง
ลึกซึ้งแล้ว เราจะใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่ท่ามกลาง "การประยุกต์ใช้อันอัศจรรย์" ซึ่งไม่อาจใช้คำพูดใดมาเปรียบเปรยได้ ทั้งยังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกด้วย ทำให้ตนกลายเป็น "ประตูสู่มวลล้ำลึกอัศจรรย์" ที่มีจิตแห่งประเทศชาติและสื่อเชื่อมกับพลังของฟ้าดินได้
อรุณสวัสดิ์ * * *
ขอนำส่งการแบ่งปันเกี่ยวกับคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" บทที่ 46 และคำอำนวยพรในเดือนแห่งการเก็บเกี่ยว
[ไม่รู้จักพอ คือวิ่งตามความทะยานอยากมาตลอด]
“ภัยใหญ่หลวงคือไม่รู้จักพอ”
สิ่งที่เลวร้ายกว่า “ผิดหนักที่สุดคือเห็นแก่ตัวและทะยานอยาก” คือ “ภัยใหญ่หลวงคือไม่รู้จักพอ”
สังเกตไหมว่า ผู้คนมากมายแม้จะมีบ้านอยู่อาศัย แต่ยังมักรู้สึกว่ายังน้อยไปหนึ่งหลัง แม้จะมีเสื้อผ้าอาภรณ์สวมใส่ แต่ยังรู้สึกน้อยไปอีกตัวหนึ่งอยู่ตลอดกาล... ไม่รู้จักพอ คือวิ่งตามความทะยานอยากมาตลอด ส่วนความทะยานอยากนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น มนุษย์จึงอยู่ท่ามกลางความทุกข์ทรมาน ยากที่จะถอนตัวได้ตลอดมา
“ไม่รู้จักพอ” ในที่นี้ ยังหมายถึงโรคทางจิตใจอย่างหนึ่ง อันมาจากการขยายตัวขึ้นอีกขั้นหนึ่งของ “ความทะยานอยาก” กล่าวคือ ได้แล้วแต่ยังไม่พอใจ ยังมีความทะยานอยากที่ลึกกว่าเกิดขึ้นอีก
ความไม่รู้จักพอ หมายถึง ผู้มีโอกาส “ได้มาก” ซึ่งโอกาสประเภทนี้บางครั้งเป็นสิ่งที่ชอบ และบางครั้งกลับไม่ชอบ ทันทีที่พวกเขามิได้สร้างกลไกทางจิตที่ถูกต้อง ทางด้านภาวจิตจะมีสภาพที่ไม่รู้จักพออยู่ตลอด เช่นนั้นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎและทำลายความสงบเรียบร้อยของพวกเขาจึงแทบจะเป็นสิ่งที่จำต้องทำเสียแล้ว
เนื่องจากผู้ที่ไม่รู้จักพอไม่เข้าใจว่าชีวิตคนเราต้องสำนึกบุญคุณ และยิ่งไม่เข้าใจคุณค่าของการละทิ้งและอุทิศ ในสมองของพวกเขาคิดถึงแต่การเสาะหาการได้ นี่เป็นเพราะเขาได้เสพติด “จิตสำนึกแห่งการครอบครอง” แล้ว เมื่อสมองมีการเสพติดเช่นนี้แล้ว จะไม่อาจจัดการความสัมพันธ์ระหว่างส่วนรวมกับส่วนตัวได้อย่างถูกต้องเด็ดขาด ไม่ว่าเรื่องใดก็จะขบคิดจากจุดยืนของตน ทุกการกระทำของเขาย่อมเบี่ยงเบนจากวิถีของเต๋า ทั้งยังไม่ได้ใจคน เช่นนี้จะไม่ทำผิดได้อย่างไร และทันทีที่เคยชินจนเป็นปกติ มักยิ่งกำเริบเสิบสานมากขึ้น ตลอดจนไม่สนใจว่าจะสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้อื่นหรือองค์กร นี่คือผลของการสูญเสียจิตใจที่รู้ผิดชอบชั่วดี แต่การโคจรที่ดีของเต๋าธรรมชาติคือ ผู้ที่ทำร้ายผู้อื่นย่อมทำร้ายตนเอง ตาข่ายฟ้ากว้างใหญ่ไพศาล แต่ไม่มีสิ่งใดเล็ดลอดไปได้
อาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564
(เผยแพร่วันที่ 1383)
* * *
** “不出户,知天下;不窥牖,见天道”的意境能力打造,要有一个基本原则,就是从简单之处做起,扎扎实实从道德经第一章开始,从道的品质和实修过程开始累积对照。在第一章中,老子提出了一个人类历史上迄今为止最高的概念,这个概念只是一个字:就是“道”。道,虽然无形无相,但真实存在、妙用无穷。人类的作风、家风、民风和自然规律都属于“常无欲以观其妙”的范畴。随着学用功夫的深入,我们将逐渐安住在这种无法言喻的“妙用”中,并与之打成一片。让自己成为那扇既有家国情怀、又能连接天地能量的“众妙之门”!
早安!* * *
18不知足,就永远跟着欲望跑
《道德经第46章分享暨收获月祝福》连载18
“祸莫大于不知足”
比“罪莫大于可欲”再严重一级的,就是“祸莫大于不知足”了。
有没有发现?很多人虽然有房子住,但总觉得还少一间;虽然有衣服穿,但永远觉得还少一件……不知足,就是永远跟着欲望跑,而欲望是永无止境的,所以,人就一直在痛苦中,难以自拔。
这里的“不知足”也是指一种心理疾病,它是由“欲得”进一步膨胀而来——也就是指已经得到了,但还不满足,还有更深的欲望升起。
不知足,是对那些能够有机会“多得”的人来说的,而这种机会有时候是正当的,有时候却是不正当的。一旦他们没有建立正确的心理机制,心态上总是处于不知足的状态,那他们做出违法乱纪的事就几乎是一种必然了。
因为,不知足的人不懂人生要感恩,更不懂舍弃和奉献的价值所在,他们脑子里只想着索取——这是因为“占有意识”已经成了瘾。有了这种瘾的头脑,就断然不能正确处理公与私的关系,凡事只会站在自己的立场来思考,那他的所作所为必然会偏离大道,不得人心,这样岂有不犯错之理?而一旦习以为常,往往就更加肆无忌惮,甚至不惜造成他人和集体的重大损失,这就是天良泯灭的结果。但天道好循环,害人者必将害己,天网恢恢,从无例外!
赵妙果,2021年11月18日,第1383天