คำอำนวยพร 2 กันยายน 2564
Updated: Oct 11, 2021
** เรื่องวุ่นวาย โรคภัย และภัยพิบัติทั้งหลายในชีวิตคนเรา ล้วนเริ่มต้นจากสภาวะจิตที่ "ไม่รู้จักพอ" เมื่อรู้จักพอจึงจะพอใจ เมื่อพอใจจึงจะพอเพียง เมื่อพอเพียงจึงจะมีความปกติสุข แล้วจึงมีความผาสุกได้ เมื่อผู้คนพิจารณาความทะยานอยากภายในจิตของตนด้วยมุมมองภววิสัย จะพบว่าอันที่จริงมีความทะยานอยากมากมายที่มากเกินไปแล้ว ต้องให้ความสำคัญกับร่างกาย ถนอมรักชีวิต ลืมอัตตาตัวตน ลดละกิเลส และสร้างความคิดที่ถูกต้องในจิตใจ จึงจะสงบสุขได้ชั่วชีวิต หากพอเพียง จะมีเหลือใช้เพียงพอ หากละโมบ จะไม่มีวันพอ
อรุณสวัสดิ์ * * *
ขอนำส่งการแบ่งปันเกี่ยวกับคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" บทที่ 44 และคำอำนวยพรในเดือนแห่งพลัง
[ชีวิตคนเรามีตึกสามชั้น]
เดือนกันยายนคือเดือนแห่งพลัง
จักรวาล สรรพสิ่ง และร่างกายมนุษย์ล้วนเป็นองค์พลังงานที่เปิดกว้าง มนุษย์กำลังแลกเปลี่ยนพลังงานกับสรรพกิจสรรพสิ่งบนโลกนี้อยู่ตลอดเวลา
ในฐานะที่เป็นมนุษย์จึงดำรงอยู่ด้วยองค์พลังงานหลายระดับชั้น ชีวิตคนเรามีตึกสามชั้น
*ชั้นล่างสุดคือระดับชั้นขององค์พลังงานที่มีลักษณะสร้างสรรค์ของร่างกาย
*ชั้นที่สองคือองค์พลังงานขั้นเทพอันเป็นชั้นที่มีความกว้างใหญ่ไพศาล
*ชั้นที่สามเป็นองค์พลังงานขององค์เต๋าที่มีความสมดุล
ชั้นล่างสุดคือกายสังขารของเรา ซึ่งได้สื่อเชื่อมกับ “องค์เต๋าที่สมดุล” ในชั้นที่สาม และ “ความเป็นเทพที่กว้างใหญ่ไพศาล” ในชั้นที่สองอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น หากสามารถขัดเกลาคุณสมบัติขั้นเทพที่อยู่บนชั้นที่สองจนเป็นอัตลักษณ์ พลังนี้เพียงพอที่จะนำพาเราผ่านตึกสามชั้นของชีวิตได้อย่างสะดวกสบายไร้อุปสรรค แต่เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับคุณสมบัติขั้นเทพของตนอย่างแท้จริง
คำว่า “ความเป็นเทพ” ที่ว่านี้คือคุณสมบัติของมนุษย์ และเป็นตัวตนที่แท้จริงของเราทุกคน อันที่จริง คนกับเทพอยู่คนละขั้วของเส้นตรงเส้นหนึ่ง เทพคือสภาวะของมนุษย์ที่อยู่บนมิติสูง ส่วนมนุษย์คือสภาวะการศึกษาประยุกต์ใช้สู่ความเป็นเทพซึ่งอยู่ขั้วปลาย แล้วเทพอยู่ที่ไหนเล่า เทพนั้นอยู่ในใจของเราทุกคน คนเราคือเทพ เทพก็คือคน ขอเพียงเราฝึกฝนจนมีคุณสมบัติขั้นเทพแล้ว มนุษย์จะมีเทพเป็นผู้พิทักษ์ บรรดาชีวิตที่ประสบความสำเร็จล้วนแต่ได้มาจากการปฏิบัติตามกฎเต๋าและฝึกฝนตนจนมีคุณสมบัติขั้นเทพได้ดี ส่วนนิยามการฝึกฝนคุณสมบัติขั้นเทพขั้นต้นคือ "คนทำ ฟ้าดู" และนิยามในขั้นสูงคือ "ฟ้าทำ คนดู" เพียงแค่มองดูก็ทราบถึงประสิทธิภาพระหว่างสองสิ่งนี้ได้แล้ว ว่าไม่อาจเกิดขึ้นในวันเวลาเดียวกันได้
สรรพสิ่งในจักรวาลล้วนเป็นองค์พลังงานทั้งสิ้น ในฐานะที่เป็นมนุษย์จะแลกเปลี่ยนพลังงานกับสรรพสิ่งในฟ้าดินอย่างไร เราจะเข้าใกล้ความถี่การสั่นสะเทือนขององค์พลังงานขั้นเทพและต้นธารพลังงานของจักรวาลได้อย่างไร นี่มิใช่ปัญหาลี้ลับอัศจรรย์ที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่เป็นโจทย์แท้จริงที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ความผาสุก และความสำเร็จของเราทุกคน
ในที่นี้มีทางลัดคือ ศึกษาประยุกต์ใช้คัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" ให้ดี หัวใจสำคัญของคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" คือความรักชาติ รักธรรมชาติ รักสันติภาพและชีวิต ดังนั้น ทุกครัวเรือนควรต้องมีคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" 1 เล่ม ท่ามกลางการดำเนินชีวิตเมื่อประสบปัญหาใด เราสามารถค้นพบคำตอบและพลังงานตามที่ต้องการได้จากคัมภีร์นี้ คัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" คือสัจจะวาจามูลฐานของจักรวาล การศึกษาประยุกต์ใช้กฎแห่งชีวิต กฎขั้นเทพ และกฎแห่งจักรวาลให้ดี ปรับคลื่นความถี่ของชีวิตให้บรรลุถึงขั้นแห่งความรักและปีติสุข นี่คือสภาวะการสื่อเชื่อมกับพลังงานเชิงบวกของจักรวาล
อาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ
วันที่ 2 กันยายน 2564
(เผยแพร่วันที่ 1307)
* * *
** 人生的许多烦恼、疾病与祸患,都起于"不知足"的心态。知足才能满足,满足才能常足,常足才能常乐,才能有幸福感。当人们用客观的态度来审视自己内心的欲望时,就会发现许多欲望其实超过了。珍重身体,爱惜生命,忘我节欲,心生正念,才能一生平安!心足,则物常有余;心贪,则物常不足。
早安!* * *
02生命有三层楼
《道德经第44章分享暨能量月祝福》连载02
九月是能量月。
宇宙是一个开放的能量体,万物是一个开放的能量体,人体也是一个开放的能量体,人类和这个世界的万事万物随时都在进行着能量交换。
作为人类,本身就存在着多个层面的能量体。我们的生命有三层楼:
最下面的一层是身体创造性层面的能量体;
第二层是神性广大层面的能量体;
第三层则是道体平衡性层面的能量体。
最下面的一层就是我们的肉体,它每时每刻都在和第三层——“道体平衡层”与第二层——“神性广大层”进行着连接。所以,处于生命第二层的神性品质如果能得以亮化,这股力量足以带我们在生命的三层楼中通达无碍!但这需要我们真正重视起自身的神性品质。
所谓“神性”就是人类的自性,也是每个人的真我。其实,人与神本是一条线上的两个端——神是人的高维境界,而人则是神的终端学用状态。神在哪里?神就在我们每个人的心中:人就是神,神也就是人。只要人修出了神性品质,人就是神的守护者。所有大成功的人生,都是遵循大道规律修好自身的神性品质而达致的。而修神性品质初级阶段的定义是:“人在做,天在看”;而高级阶段的定义则是:“天在做,人在看”。这两者之间的效率一看便知,是绝对不可同日而语的!
宇宙万物都是一个能量体。作为人类,如何与天地万物进行能量交流?如何接近神性能量体的振动频率?如何接近宇宙本源能量的振动频率?这不是玄之又玄、可有可无的问题,而是切实关乎每个人健康、幸福、成功的真实课题!
这里有一条快速通道:就是学用好《道德经》——《道德经》的核心很简单,就是热爱国家、热爱自然、热爱和平、热爱生命。所以,每个家庭都应该有一本《道德经》,当在生活中遇到任何问题时,我们都可以从《道德经》中寻找到我们所需要的答案与力量。《道德经》是一本宇宙根本真言,学用好其中的生命规律、神性规律、宇宙规律,让生命的频率到达爱与喜悦的层级,这就是一个宇宙正能量的连接状态!
赵妙果,2021年09月2日,第1307天