คำอำนวยพร 21 กันยายน 2564
Updated: Oct 11, 2021

** "การกีฬาชนะความหนาวเหน็บ นิ่งชนะร้อนแรง" คือการอธิบายสภาวะที่สิ่งหนึ่งควบคุมอีกสิ่งหนึ่ง เป็นปรากฏการณ์ที่ชาวโลกทั่วไปมองเห็นได้ด้วยตา
แต่ในสายตาของผู้มีเต๋า ไม่มีสิ่งที่ตรงกันข้ามเช่นนี้อยู่แล้ว แต่จะหวนคืนสู่สภาวะอู๋เหวยที่สงบนิ่ง สภาวะแรกเริ่มคือ "สงบนิ่งเป็นวิถีที่ถูกต้องใช้ทั่วหล้า" คุณสมบัติทางกายภาพตามหลักภววิทยาก็เป็นเช่นนั้นตามธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า "นิ่ง" "ร้อนแรง" "การกีฬา" หรือ "ความหนาวเหน็บ"
หากมนุษย์มองโลกด้วยจิตสำนึกในตน มีอัตตาเกิดขึ้น จะมีความแตกต่างระหว่าง "การกีฬา" และ "ความหนาวเหน็บ" และจะเกิดสภาวะสองขั้วตรงข้ามที่ให้กำเนิดและควบคุมซึ่งกันและกัน การทำจิตใจให้ผ่องใสลดละกิเลสจึงจะเป็นวิถีที่ถูกต้องที่คนทั่วหล้าต่างย้อนสู่แหล่งกำเนิดและภาวะเดิม
วันนี้คือวันไหว้พระจันทร์ ขอให้ท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรง และโชคดี!
อรุณสวัสดิ์ ***
ขอนำส่งการแบ่งปันเกี่ยวกับคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" บทที่ 44 และคำอำนวยพรในเดือนแห่งพลัง
[“สูตรยา” ที่ต้องจดจำไว้ในใจเสมอ]
2.2 การจัดการเป็นสัดเป็นส่วน รักษาความสมดุล คือพลังการฝึกปฏิบัติที่แข็งแกร่งที่สุด
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนมารวมตัวกันเพราะ “วาสนา” และต้องแยกจากเพราะ “วาสนา” เช่นกัน สุดท้ายแล้วสรรพสิ่งจะ “ย้อนคืนสู่มูลรากของตน” บรรดาทรัพย์สมบัติล้วนแต่เคลื่อนที่เช่นเดียวกัน พวกมันจะไม่อาจเป็นของใครหรือองค์กรใดตลอดกาล หากกล่าวในมุมมองที่แคบ ๆ ทรัพย์สินมิได้เป็นของบุคคล แต่เป็นของชาติ สังคม และประชาชนทุกคน หากกล่าวในมุมมองที่กว้าง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากเต๋า และเป็นของสรรพชีวิตร่วมกัน ใครก็ตามอย่าพยายามมาควบคุม
ชีวิตคนเรา แสวงหาอะไรมากที่สุดและเป้าหมายสุดท้ายคืออะไร หากกำหนดพิกัดการนำร่องไม่แม่นยำ ชีวิตย่อมออกนอกเส้นทาง เรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตคือร่างกายแข็งแรง จิตใจมีความสุข และมีอายุยืนยาว กล่าวอย่างง่าย ๆ คือ อยู่ดีและไปดี มิใช่การครอบครองชื่อเสียง ผลประโยชน์ และทรัพย์สมบัติอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อเปรียบเทียบกัน การมีชื่อเสียงและผลประโยชน์เป็นเพียงเป้าหมายรองของชีวิต หรือเป้าหมายระยะสั้นเท่านั้น หากแสวงหามากเกินไป จะสูญเสียกำลังวังชาไปมาก แต่กำลังวังชาของคนมีจำกัด หากสิ้นเปลืองเกินไปจะเป็นผลร้ายต่อชีวิตโดยไม่มีผลดีเลย ดังนั้น การแสวงหาวัตถุทรัพย์สินเงินทองและชื่อเสียงผลประโยชน์ไม่ได้ผิดอะไร แต่ผิดที่ไม่รู้จักพอ เรื่องใดก็ตามที่เกินขีดจำกัด ย่อมต้องขับเคลื่อนไปสู่ความสมดุลของด้านกลับ นี่คือบ่อเกิดของภัยพิบัติทั้งปวง ด้วยเหตุนี้ การหยุดได้เหมาะมีคุณค่าที่ไม่อาจประเมินได้ต่อชีวิตคนเรา การจัดการเป็นสัดเป็นส่วน รักษาความสมดุล คือพลังการฝึกปฏิบัติที่แข็งแกร่งที่สุด
แต่ท่านเหลาจื่อทราบว่า สมองที่โง่เขลาจะไม่มีไหวพริบปฏิภาณ นิสัยละโมบโลภมากจะสะสมจนแก้ไขได้ยาก ธรรมเนียมที่ตื้นเขินยากที่จะทำลาย แม้ผู้คนมากมายจะทราบถึงอันตรายของความทะยานอยาก แต่มักควบคุมความร้อนรนที่อยากลองสู้ดูสักตั้งเหล่านั้นไม่ได้ ดังนั้น ท่านเหลาจื่อจึงจ่ายยาให้เราสูตรหนึ่ง คือ “ตระหนี่เกินไปจะสิ้นเปลืองมาก สมบัติล้นฟ้ากลับเสียหายยับเยิน รู้จักพอไม่อดสู รู้หยุดได้เหมาะไม่มีภัยร้าย จึงอยู่เย็นเป็นสุขยาวนาน” คำสอนเหล่านี้ เราต้องจดจำไว้ในใจเสมอ เมื่อเกิดความสับสนในจิตใจหรือต้องเผชิญหน้ากับการเลือกสรรครั้งใหญ่ ก็ให้ระลึกถึงประโยคเหล่านี้ซ้ำไปซ้ำมา โดยทั่วไปแล้วคนเราจะสามารถเลือกสรรอย่างชาญฉลาดได้แล้ว
อาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ
วันที่ 21 กันยายน 2564
(เผยแพร่วันที่ 1326)
***
** “躁胜寒,静胜热”,就是描述这种一物降一物的状态,这是肉眼凡胎的俗者现象。
而在道者眼中,根本没有这些对立的东西,而是回归到清静无为状态,本来的状态,“清静,为天下正”,本体的体性功能很自然地就是这样,无所谓“静”“热”“躁”“寒”。
如果人类是用自我意识、俱生我执识等来看这个世界,就有“躁”和“寒”的分别,就会有两极相生相克的状态。清心寡欲,才是天下人归根复命的正道。
今天是中秋节,祝您节日快乐,身体健康,好运连连!
早安!***
21要时刻记在心里的“药方”
《道德经第44章分享暨能量月祝福》连载21
其次,拿捏分寸、保持平衡,是一种极其强大的修行力。
世间的一切都是因“缘”而聚,也必然会因“缘”而散,万物最终会“各复归其根”。所有财物也都是流动的,它们不可能永远属于某个人、某个团体——往小了说,财物并不属于个人,而是属于国家、社会、人民所有;往大了说,一切都是大道所生,都属于众生共有,谁也不要试图把持。
人生,最大的追求是什么?最终的目标是什么?这个导航定位不准的话,生命一定会出偏!生命中最重要的事就是身体健康、内心幸福、尽享天年——简单说,就是活好和走好,而不是对名利财货的疯狂占有。
相比之下,获取名利只是人生的次要目标,或阶段性目标而已,如果过分追求,只会消耗大量精力。但人的精力又是有限的,过分耗费对生命有百害而无一益。所以,追求物质财富和名利本身并没有错,错就错在不知满足上!而任何事物超越极限,都必然被启动反向平衡,这就是一切祸患产生的根源。因此,做到适可而止对人生有着不可估量的价值!而拿捏分寸、保持平衡,则是一种极其强大的修行力!
但老子也知道:愚痴的脑筋是冥顽不灵的;贪欲的惯性是积重难返的;浅薄的习俗是难以打破的——虽然很多人都知道欲望的危害,但总按捺不住那种想冲一冲、试一试、争取一下的冲动。所以,老子为我们开出了一幅药方:“甚爱必大费,多藏必厚亡。故知足不辱,知止不殆,可以长久”。这些教导,我们要时时记在心里:当内心有所挣扎或面临重大抉择的时候,就把这些话拿出来反复回味,人往往就能做出明智的选择了。
赵妙果,2021年09月21日,第1326天