top of page

คำอำนวยพร 4 กุมภาพันธ์ 2565



** พ่อแม่และครูบาอาจารย์ที่ดีจะไม่ให้เราพึ่งพา แต่จะสอนให้เรายืนด้วยลำแข้งตนเอง ชีวิตต้องเติบโตด้วยตนเอง ขนาดจิตใจต้องขยายด้วยตนเอง เช่นนี้พลังจึงจะเป็นของเราเอง มิใช่ไปหยิบยืมจากผู้อื่น ความหมายของการศึกษาคัมภีร์ “เต้าเต๋อจิง” อยู่ที่การศึกษาจริง ทำจริง ฝึกฝนจริง มิฉะนั้น ต่อให้มีเวทีใหญ่เพียงใด หากไม่ขึ้นเวที ย่อมต้องเป็นผู้ชมตลอดไป ต่อให้มีโอกาสดีแค่ไหน หากไม่เข้าร่วม ย่อมเป็นได้เพียงคนนอกไปตลอดกาล


คำอำนวยพรอรุณสวัสดิ์

จากอาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ * * *


ขอนำส่งการแบ่งปันเกี่ยวกับคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" บทที่ 49 และคำอำนวยพรในเดือนแห่งการหว่านเพาะเมล็ดพันธุ์


[ความหมายของชีวิตคือการสัมผัสได้ถึงความรัก สร้างสรรค์ความรัก และเป็นความรัก]

การใช้ความดีไปโอบกอดอีกฝ่ายหนึ่งอยู่เสมอ คือความดีที่สอดคล้องเต๋า เป็นความดีที่มนุษย์ใช้ในการปกครองโดยสงบได้อย่างยาวนาน ทั้งยังเป็นความดีที่ทำให้ปัจเจกบุคคลมีสุขภาพดีและอายุยืนยาว หากเราสามารถใช้จิตใจที่กว้างขวางไปกล่อมเกลาความไม่ดี แล้วสลายความขัดแย้ง และกำจัดความเป็นปฏิปักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือใช้การสอนโดยไร้วาจา สะท้อนต่อคนไม่ดี การปฏิบัติ การกระทำ และทำได้จริงในจุดนี้ คือวิถีที่ให้ทุกคนสำเร็จเป็นอริยบุคคล


ขอเพียงทำงานตามหลักการของเต๋า ผู้คนและเรื่องราวรอบตัวเราจะเปลี่ยนแปลงเองตามธรรมชาติเพราะเราปฏิบัติตามเต๋า สุดท้ายดูเหมือนเราไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เมื่อตนเองดีแล้ว รอบตัวย่อมดีมากไปด้วย นี่คือการ “ปกครองด้วยอู่เหวย” ท่านเหลาจื่อ กล่าวว่า จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการ “ปกครองด้วยอู๋เหวย” คือให้เราศึกษาตามวิถีธรรมชาติ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงจากปริมาณสู่คุณภาพ ชีวิตจึงเกิดการเปลี่ยนแปลง


คนจำนวนมากใช้มาตรฐานของอริยบุคคลไปเรียกร้องผู้อื่น แต่กลับใช้มาตรฐานของปุถุชนมาเรียกร้องตนเอง เพราะเมื่อกล่าวถึงคำว่า “เต้าเต๋อ” เรากลับกล่าวถึงแต่ “เต๋อ” (คุณธรรม) โดยไม่รู้จัก “เต๋า” แต่เต๋าคือกฎ เต๋อคือการปฏิบัติตามกฎ เต๋าคือมาตรฐานหนึ่งเดียวในการวัดคุณธรรม หากไม่มีเต๋าเป็นมาตรฐาน คนเราจะใช้ตนเองเป็นมาตรฐานในการตัดสินผู้อื่น ดังนั้น ตนย่อมไม่มีวันผิด แต่เมื่อไม่ยอมรับผิด ย่อมไม่อาจพูดถึงการแก้ไขได้ เมื่อไม่แก้ไข จะไม่เติบโต เมื่อไม่เติบโต ชีวิตจะหดสั้นลง ภาวจิตสับสน พลังกระจัดกระจาย เมื่อคิดว่าตนถูกต้องอยู่ตลอดไป จะสัมผัสถึงความสุขได้ยาก เพราะบรรดาอารมณ์เชิงบวกล้วนมาจากการสอดคล้องกับเต๋า


ความหมายของชีวิตคือการสัมผัสได้ถึงความรัก สร้างสรรค์ความรัก และเป็นความรัก ฉันฝึกปฏิบัติท่ามกลางการ “ปรองดองกายใจ ครอบครัว ธุรกิจการงาน และสังคมล้วนเป็นหน้าที่ของฉัน” ซึ่งต้องใช้ “กระจกมหาชนในสังคม” บานนี้มาสำรวจภายในของตน ดูให้ชัดเจนว่า มีชีวิตมากมายล้วนแต่เนื่องจากขาดพฤติกรรมหลักในการ “ถ่ายทอดความรักไปทั่ว” ดังนั้น จึงไม่อาจแหวกข้อจำกัดของรูปแบบชีวิตที่มีอยู่เดิมได้ ฉันต้องเดินสวนทางกับเขาเหล่านั้น จึงจะสามารถทำลายกรอบที่ตายตัว และมีชีวิตใหม่ได้


การที่มนุษย์สามารถเป็นหนึ่งใน “สี่ยิ่งใหญ่” ร่วมกับเต๋า ฟ้า และดิน เพราะสรรพสิ่งทั่วหล้าล้วนสามารถถูกรับเข้าสู่จิตใจมนุษย์ได้ภายในชั่วพริบตา ฐานะของเต๋า ฟ้า ดิน และมนุษย์ในจักรวาลนั้นเท่าเทียมกัน นอกเสียจากฉันจะไม่เชื่อมั่นว่าตนคือเต๋า คือแสงสว่าง คือความรักและการสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัด ชีวิตคนเรา จิตใจมีขนาดใหญ่เท่าใด เวทีย่อมใหญ่เท่านั้น ต้องมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่ ทำงานต้องทำจริง และการขบคิดต้องละเอียดถี่ถ้วน


อาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565

(เผยแพร่วันที่ 14..)

* * *


** 好的老师,好的父母,不会让我们依靠,而是教我们自立。生命要自己成长,心量要自己壮大,那样力量是自己的,而不是向别人借的。学《道德经》的意义在于实学实干实修,否则,舞台再大,不上台,永远是观众;平台再好,不参与,永远是局外人。

早安!* * *


04 生命的意义就是感受爱、创造爱、成为爱

《道德经》第49章分享暨播种月祝福》连载04


我知道,永远用善去拥抱另一面,是合道之善,是人类长治久安之善,也是个体健康长寿之善。如果我能以宽容来感化不善,从而化解矛盾、消除对立;尤其是以不言之教,影响不善者,在这一点上的实践、行动和做到,就是在成就每个人的圣人之道。


我知道,只要按照道的原则去做事,周围的人和事就会因我的顺道而行自然改变。最终我好像什么都没做,但自己好了,周围也大好了,这就是“无为而治”。老子说“无为而治”的真正目的就是让我们向天之道学习,当量变产生质变,生命就会发生蜕变。


我知道,很多人用圣人的标准要求别人,却用俗人的标准要求自己。因为,说起“道德”,他们只讲“德”,而不知“道”。但道是规律,德是按规律做,道是德唯一的衡量标准。若没有道作为标准,人就会以自己为标准去审判别人,那错的当然不会是自己。但不认错,就谈不上改善;不改善,就不成长;不成长,生命就萎缩,心态就纠结,力量就消散。永远认为自己正确,很难感受到快乐,因为所有正向的情感都来自合道。


我知道,生命的意义就是感受爱、创造爱、成为爱。我在“和谐身心我的责任、和谐家庭我的责任、和谐事业我的责任,和谐社会我的责任”中修行,是要用这面“人间众生镜”来内观自己,看清:很多生命体都是因为缺少“把爱传出去”的自主行为,所以才无法冲破原有生命版本的局限。我只有反其道而行,才能打破僵局,破茧重生。


我知道,人能与道、天、地并列“域中四大”,是因为天地万有都能在刹那间被纳入人的心中。道、天、地、人在宇宙中的地位是平等的,除非我不相信自己:就是道,就是光,就是无限的爱和无限的创造。人生,心有多大,舞台就有多大。立志要大、做事要实、考虑要细。


赵妙果,2022年2月4日,第1460天

0 views0 comments
bottom of page