คำอำนวยพร 9 ธันวาคม 2564

** "อู๋เหวย" มิใช่ไม่ทำอะไรเลย "อู๋เหวย" คือการกระทำอันกระตือรือร้นที่ "ทำความดี วาจาดี คำนวณดี ปิดประตูดี และผูกดี" ดังที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" บทที่ 27
อู๋เหวยคือการบริหารความสำเร็จที่ "ข้าอู๋เหวยปวงชนจึงเปลี่ยนแปลงเอง ข้าไม่ก่อปัญหาประชาจะมั่งคั่ง ข้าสงบนิ่ง ปวงชนจึงสุภาพเรียบร้อย ข้าไร้ทะยานอยาก ปวงชนจะเรียบง่าย" ดังที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" บทที่ 57
อู๋เหวยคือการกระทำที่สร้างความยิ่งใหญ่ซึ่ง "ละม้ายคล้ายอยู่ก่อนหน้าพระผู้เป็นเจ้า" ดังที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" บทที่ 4
อู๋เหวยคือการกระทำอันยั่งยืนยาวนานที่ "วางตนอยู่หลังกลับได้นำหน้า อยู่นอกเหนือเป็นตายผลได้เสียกลับรักษาชีวิตได้" ดังที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" บทที่ 7
อู๋เหวยคือการไม่กระทำแต่ไม่มีสิ่งใดไม่ถูกกระทำที่ "คุณธรรมหนาแน่นรองรับได้ทุกสิ่ง รู้กฎเต๋าเรียกกระจ่าง และประชาชนพากันกล่าวว่า 'อันที่จริงเราเป็นเช่นนี้เอง' " ดังที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" บทที่ 10, 16 และ17
อรุณสวัสดิ์ * * *
ขอนำส่งการแบ่งปันเกี่ยวกับคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" บทที่ 47 และคำอำนวยพรในเดือนแห่งความสงบสุข
[ภูมิปัญญาทางจิตวิญญาณของมนุษย์ มาจากการรวมเป็นหนึ่งของ กายกับใจ กมลสันดานกับสัญชาตญาณ และฟ้ากับคน]
1.3 หากไม่เข้าสู่จิตส่วนลึก ก็ไม่อาจยอมรับและเข้าใจสรรพสิ่งทั่วหล้าได้
โลกปัจจุบัน เราสามารถ “ถึงไม่ออกนอกบ้าน ก็รู้เรื่องทั่วหล้า ไม่มองออกข้างนอก ก็รู้กฎธรรมชาติ” ได้หรือไม่ คำตอบคือได้แน่นอน ความก้าวหน้าของอินเตอร์เน็ต ทำให้เราสามารถมองเห็นทุกมุมโลกด้วยปลายนิ้วสัมผัส จากยอดเขาเอเวอเรสต์ที่สูงตระหง่าน ลึกไปจนถึงก้นทะเลสาบน้ำเค็ม Dead Sea จากแนวเส้นศูนย์สูตรอันเป็นโซนที่ดวงอาทิตย์ร้อนเป็นไฟ ไปจนถึงธารน้ำแข็งที่ไม่เคยละลายมานับหมื่นปี
มนุษย์ทำเช่นนี้ได้อย่างไร มองดูด้วยตาตนเองหรือไม่ ใช้การเดินด้วยขาตนเองหรือไม่ คำตอบคือไม่ มนุษย์อาศัยดาวเทียมที่โคจรล้อมรอบนอกโลก ทะลวงขีดจำกัดทางกายภาพของตน ยืนอยู่บนมิติที่สูงกว่า แล้วใช้ “ตาทิพย์” มองดูโลกใบนี้ หลักเหตุผลนี้ อันที่จริงยังเป็นวิธีการแสวงหาจากภายใน เพื่อเข้าใจเต๋าและฝึกปฏิบัติ
ขอยกตัวอย่าง เมื่อบริหารทีมงาน หากผู้นำอยากเข้าใจความคิดของสมาชิก เขาไม่จำเป็นต้องขอความคิดเห็น ขอเพียงถามใจตนเองว่า “ฉันหวังจะได้อะไรมากที่สุด ผู้อื่นก็หวังจะได้อย่างนั้น ฉันอยากหลีกเลี่ยงสิ่งใดมากที่สุด ผู้อื่นก็อยากหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น” เพราะ “สรรพสิ่งใต้หล้าถือกำเนิดจาก ‘มี’ มีเกิดจากไม่มี” สรรพกิจสรรพสิ่งล้วนมีต้นธารเดียวกัน แม้ว่ารูปลักษณ์และเส้นทางจะแตกต่างกัน แต่จะไม่ฝ่าฝืนความเป็นนิรันดร์ของเต๋าและหลักการของสรรพสิ่ง
ท่านเหลาจื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของ “วิธีแสวงหาจากจิตภายใน” เพราะมักมีบางคนชอบ “วิธีแสวงหาจากภายนอกจิต” ชอบแสวงหาความรู้ที่กว้างขวาง ในขณะที่ผู้คนต้องการความสำเร็จ และความอุดมสมบูรณ์สู่ชีวิต สายตามักมองออกไปข้างนอก ยุ่งอยู่กับการไล่ตามปรากฏการณ์ภายนอก พยายามแสวงหาพลังจากภายนอก เพื่อนำมา “ช่วย” ให้ตนเองประสบความสำเร็จ รูปแบบประเภทนี้ ไม่มีวันเข้าถึงจิตส่วนลึกภายในของตน สรรพสิ่งและเต๋าได้ตลอดกาล หากไม่อาจเข้าสู่ส่วนลึกของจิตภายในได้ ย่อมไม่อาจแปรเปลี่ยนคุณสมบัติฟ้าคนรวมเป็นหนึ่งเป็นคุณสมบัติของตนได้ และไม่อาจสื่อเชื่อมกับภูมิปัญญารวมหมู่ในมิติที่สูงยิ่งขึ้นของจักรวาลได้ ดังนั้น จึงไม่อาจยอมรับและเข้าใจสรรพสิ่งทั่วหล้าได้
เพราะภูมิปัญญาทางด้านจิตวิญญาณมิได้มาจากความรู้ แต่มาจากกายและใจที่รวมเป็นหนึ่ง กมลสันดานกับสัญชาตญาณของมนุษย์ที่รวมเป็นหนึ่ง และฟ้าคนรวมเป็นหนึ่งของคนกับธรรมชาติ
อาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ
วันที่ 9 ธันวาคม 2564
(เผยแพร่วันที่ 1404)
* * *
** “无为”,不是什么都不做,“无为”是《道德经》第二十七章中所说的“善行、善言、善数、善闭、善结”的积极之为。无为是《道德经》第五十七章中所说的“我无为而民自化;我好静而民自正。我无事而民自富;我无欲而民自朴”的成功管理之为。无为是《道德经》第四章中所说的“象帝之先”的成就伟大之为。无为是道德经第七章所说“后其身而身先,外其身而身存”的天长地久之为。无为是《道德经》第十、十六、十七章中所说的“厚德载物;知常曰明;百姓皆谓我自然”的无为而无不为!
早安!* * *
09心灵层面的智慧源于三个合一
《道德经第47章分享暨平安月祝福》连载09
三、无法深入内心,就无法认知天下事物。
当今世界,我们可以做到“不出户知天下,不窥牖见天道”吗?回答是肯定的。互联网的发展,让我们可以动动手指,就看到地球上的每一个角落,从高耸的珠穆朗玛峰,到深陷的死海;从骄阳似火的赤道,到万年不化的冰川。
人类如何做到这一点的?用自己的眼睛看吗?不;用自己的腿走吗?不。人类借用了地球之外的环地卫星,突破了自己肉体的极限,站在了了更高维度,用“天眼”来看这个世界。这个道理,实际上也是我们悟道、修行的内求方法。
比如,管理一个团队时,领导者想了解成员的想法,他不必一一征求意见,只要问问自己的心:“我最希望得到什么,别人也希望得到什么;我最希望规避什么,别人也希望规避什么。” 因为“天下万物生于有,有生于无”,万事万物都有同一个本源,虽然形状不同、道路不同,但都不会违背大道之常、万物之理。
老子强调“内求法”的重要性,是因为总有些人热衷于“心外求法”,喜欢追求知识的广博。人们在向人生要成功、要圆满时,往往目光向外,忙于追逐外面的现象,试图寻求外在的力量,以此来“帮助”自己成功。这种方式永远无法深入到自己的内心、万物的内心以及道的内心。如果无法深入内心,无法把天人合一的品质内化成自己的品质,也就无法联接到更高宇宙维度的集体智慧。因此,也就无法认知天下事物。
因为,心灵层面的智慧并不来源于知识。它来源于身与心的合一,来源于人类本性与本能的合一,来源于人与自然的天人合一。
赵妙果,2021年12月9日,第1404天