คำอำนวยพร 9 มีนาคม 2565

** เรื่องที่มีความสุขที่สุดในโลก คือการเจริญเติบโตด้วยตนเอง เรื่องที่ผาสุกที่สุดในโลก คือมีคนร่วมเจริญเติบโตไปพร้อมกับเรามากยิ่งขึ้น การเสพสุขเช่นนี้ วัตถุ ชื่อเสียง และผลประโยชน์ไม่อาจให้เราได้ มันเป็นความปีติที่ผุดขึ้นจากส่วนลึกของจิตใจ เรื่องที่ฉันมีความผาสุกที่สุด คือการสนทนาเรื่องเต๋า เข้าใจเต๋า และฝึกฝนคุณธรรมทุกวัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ชีวิตของฉันเปี่ยมด้วยความงามสง่าน่าเกรงขาม สงบ และมีความสุข
คำอำนวยพรอรุณสวัสดิ์
จากอาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ * * *
ขอนำส่งการแบ่งปันเกี่ยวกับคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" บทที่ 50 และคำอำนวยพรในเดือนแห่งการท้าทาย
[การกุมจิตตน คือวิธีการกุมชีวิตที่สะดวกที่สุด]
1.3 การกุมจิตตน คือวิธีการกุมชีวิตที่สะดวกที่สุด
ความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงที่สุดของมนุษย์ที่มีต่อการเกิดและการตายคือ การยึดถือว่ากายสังขารเป็นเพียงหนึ่งเดียวของชีวิต โดยมองข้ามจิตวิญญาณที่ไร้รูป ในคัมภีร์ “เต้าเต๋อจิง” บทที่ 13 กล่าวว่า “การที่ข้าประสบมหาภัย เป็นเพราะข้ามีอัตตา หากข้าไร้อัตตา จะไม่มีเภทภัย” คนเรายึดติดกับร่างกาย จึงกลัวการเกิด แก่ เจ็บ ตาย หากไม่มีร่างกาย ก็ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าการเกิดและการตายแล้ว
การเกิดและการตายคือแนวคิดที่ร่วมดำรงอยู่คู่หนึ่งและก่อเกิดซึ่งกันและกัน มีการเกิดจึงมีการตาย เมื่อไม่มีการเกิดย่อมไม่มีการตาย ขอยกตัวอย่างเช่น เมื่อจิตใจมนุษย์สงบนิ่ง ไม่มีสิ่งใดมารบกวนอารมณ์ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านเวลา แต่เมื่อจิตหวั่นไหว มีความคิดเกิดขึ้น ความคิดก่อเกิดอารมณ์ อารมณ์แปรเปลี่ยนเป็นคำพูดและการกระทำ คำพูดและการกระทำแปรเปลี่ยนเป็นเรื่องราว เรื่องราวกระตุ้นอารมณ์ขึ้นอีก นี่คือ “การเกิด” ในทางกลับกัน เมื่ออารมณ์สลายไป เรื่องราวแก้ไขได้แล้ว ความคิดยุติลง จิตฟื้นสู่ความสงบนิ่ง นี่คือ “การตาย” วงจรนี้ดูคล้ายกระบวนการของเวลาด้านประสบการณ์ที่ผ่านมาของการเกิดและการตาย แท้จริงแล้วคือการแสดงออกของพลังงานที่แตกต่างกัน
ทุกคนถือกำเนิดมายังโลกใบนี้ล้วนมีภารกิจของตน โลกคือมหาวิทยาลัยชีวิต มนุษย์มาพักอาศัยที่นี่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประสบล้วนเป็นข้อสอบ เพื่อทดสอบว่าเราสามารถกระตุ้นพลังชีวิตได้หรือไม่ ค้นพบความจริงของชีวิตได้หรือเปล่า และทำให้ชีวิตเบ่งบานมีสีสันได้หรือไม่ เราทุกคนล้วนเป็นผู้ช่วยอาจารย์ที่ร่วมสอบ เมื่อเราสอบเสร็จแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร พวกเขาจะไม่อยู่ต่อ แต่ความคิดเห็นที่เรามีต่อพวกเขากลับจะส่งผลกระทบต่อเส้นทางที่เราจะเดินต่อไปในอนาคต
หากจะกุมการเกิดและการตาย ต้องกุมจิตของตนไว้ให้ได้ ความคิดแตกต่างกับกายสังขาร การก่อเกิดคลื่นและความไวในการเคลื่อนที่เร็วกว่าแสงมาก และไม่ถูกจำกัดด้วยกาลเทศะแต่อย่างใด ดังเช่นความคิดของคนเราที่สามารถทะลุผ่านอดีตอนาคต และยังท่องเที่ยวไปท่ามกลางหมู่ดาวได้ เมื่อคนเราฝัน ภาพมากมายที่ไม่เคยเห็นสามารถปรากฏขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ นี่เป็นการอธิบายว่า มิติของความคิดสูงกว่ากายสังขารมาก และสูงกว่าการรับรู้ต่อโลก 3 มิติของเรามาก
ท่านเหลาจื่อกล่าวว่า “รับใช้คนทั่วหล้าดุจสนใจร่างกายตน จึงมอบโลกให้เขาดูแล ด้วยรักถนอมโลกดังชีวิตตน จึงฝากโลกให้เขาดูแล” ในใจของคนเรามีทุกสิ่งทุกอย่าง จิตคือประตูใหญ่ที่สื่อเชื่อมปัจจุบันกับมิติชั้นสูง พลังงานของมิติระดับสูงทั้งหลายสามารถไหลผ่านจิตไปสู่ชีวิตได้ กลุ่มพลังงานที่ดาวน์โหลดเข้ามายังสมองคือสื่อข้อมูล เมื่อใช้ในการดำเนินชีวิตเรียกว่าภูมิปัญญา เมื่อใช้ในการทำงานเรียกว่าการสร้างสรรค์ เมื่อเก็บไว้กับชีวิตคือสภาวะ การกุมจิตของตนคือการกุมชีวิต และเป็นวิธีทำความเข้าใจต่อการเกิดและการตายที่สะดวกที่สุด
อาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ
วันที่ 9 มีนาคม 2565
(เผยแพร่วันที่ 1493)
* * *
** 天下最快乐的事,是自我成长;天下最幸福的事,是有更多人与我共同成长。这种享受是物质名利无法给与的,那是从心底深处涌出的法喜。人生最幸福的事,就是在为人做事中,悟道修德,这让我们的生命充满了庄严与安乐。
早安!* * *
09把握自心,就把握生命
《道德经》第50章分享暨挑战月祝福》连载09
三、把握自心,是把握生命最便捷的方法。
人对生死最大的误解,是将有形身体当作生命的唯一,而忽视了无形心灵。《道德经》第十三章中说:“吾所以有大患者,以吾有身。及吾无身,吾有何患?”人执着于身体,才惧怕生老病死,若没有身体,也无所谓生死了。
生死是一对共存互生的概念,有生才有死,无生就无死。举个例子,人心宁静时全无情绪干扰,也无所谓时间变化。但心一动,念头就出来了,念头带出情绪,情绪化为言行,言行化为事情,事情再激发情绪,这就是“生”。反过来,情绪化解了,事情解决了,念头止息了,心恢复宁静了,这就是“死”。这一圈看似生死的时间历程,实际上就是一道能量波的不同显现。
每个人来到世间,都有自己的任务。地球是生命大学,人寄宿其中,遇到的一切都是考题,测试我们能不能:激活生命力量?发现生命真相?绽放生命精彩?所有人都是陪考的助教,我们考完了,不管结果如何,他们都不会留驻,但我们对他们的看法却会影响自己下一程的走向。
想掌握生死,必须掌握自己的心。心念与肉体不同,呈现波性,运动速度远高于光速,完全不受时空的限制。就像人一念能穿梭过去未来、遨游星际;人做梦时,很多闻所未闻的场景会莫名浮现,这都说明心念的维度远高于肉身,高于我们对三维的认识。
老子说:“贵以身为天下,若可寄天下;爱以身为天下,若可托天下。”人心中什么都有,心是链接当下与高维的大门,所有高维能量都能通过心流经生命——那股能量下载到头脑中就是信息,放在生活里就是智慧,落在工作中就是创意,搁在人生里就是境界。把握自心,是把握生命、了悟生死最便捷的方法。