บทที่ 57 ปกครองด้วยความเที่ยงธรรม
ปกครองเที่ยงธรรม
ชนะด้วยกลยุทธ์
ปกครองโดยไม่ก่อปัญหา
ข้ารู้เหตุผลได้อย่างไร
เพราะว่าทั่วหล้ามีข้อห้ามมากหลาย
ปวงชนจึงยิ่งอดอยาก
ปวงชนมีอาวุธมาก
ชาติจึงยิ่งมืดมนสับสน
คนละโมบยิ่งฉกฉวย
ความชั่วร้ายจึงเกิดขึ้นมากมาย
กฎหมายมากเข้มงวด
โจรผู้ร้ายจึงเพิ่มทวี
ดังนั้น อริยบุคคลกล่าวว่า
ข้าอู๋เหวยปวงชนจึงเปลี่ยนแปลงเอง
ข้าไม่ก่อปัญหาประชาจะมั่งคั่ง
ข้าสงบนิ่ง ปวงชนจึงสุภาพเรียบร้อย
ข้าไร้ทะยานอยาก ปวงชนจะเรียบง่าย
คติธรรม
1) การปกครองด้วยอู๋เหวยเป็นหัวใจวิธีการปกครองของท่านเหลาจื่อ อู๋เหวยมิใช่ไม่ทำอะไรเลย แต่จะไม่ทำในสิ่งที่มิชอบและใช้กำลังรุนแรง ต้องให้เป็นไปตามธรรมชาติ เป็นอู๋เหวยตามธรรมชาติ
2) ผู้นำของชาติบ้านเมืองพึงต้องรู้เจตนารมณ์ และปฏิบัติตามความปรารถนาของประชาชน ขจัดท่าทีทางการเมืองที่สุดโต่ง รุนแรงและเห็นแก่ตัว สนองสภาพแวดล้อมที่ปรองดองสมานฉันท์อันกว้างใหญ่เพื่อให้ประชาชนพัฒนาตามธรรมชาติ
3) การปกครองบ้านเมืองต้องยึดถือความปรารถนาของประชาชนเป็นหลัก ความปรารถนาที่ดีหรือไม่ดีล้วนต้องมีท่าทีที่ดีต่อเขา เช่นนี้จึงมีความดีมาก ความปรารถนาของปวงชนผู้มีสัจจะหรือ ไม่มีก็ให้ความเชื่อถือและจริงใจ จึงได้รับความเชื่อถืออย่างยิ่ง นี่แหละคืออู๋เหวยและกระทำทุกสิ่งที่มีคุณ อาศัยอู๋เหวยจนบรรลุ ผลงานเชิงบวกที่สุด
4) กล่าวสำหรับธุรกิจหนึ่งแล้ว ประธานกรรมการเป็นมือหนึ่งควรต้องอู๋เหวย ผู้จัดการต้องมีความสามารถ ทั้งสองประสานกัน หมายถึง ราชาอู๋เหวย ขุนนางมีความสามารถ ข้าอู๋เหวยประชาเปลี่ยนแปลงเอง แน่นอน มือหนึ่งขององค์กรหนึ่งและแผนกใดแผนกหนึ่งต้องปกครองด้วยอู๋เหวย เช่นนี้จึงจะสามารถทำอะไรได้ทุกสิ่ง
5) จงอู๋เหวยตามธรรมชาติเถิด มิต้องเป็นห่วงกังวล ขอเพียงมีความตั้งใจ เอาใจใส่ สงบนิ่ง ไม่เป็นทุกข์ ไม่ละโมบ ทุกสิ่งทุกอย่างจะมีความก้าวหน้า
6) การใช้โอกาส มิสู้ปล่อยไปตามธรรมชาติ การกระทำด้วยเจตนามิสู้ให้เป็นไปตามธรรมชาติ มีความเรียบง่ายและอู๋เหวยตามธรรมชาติ นี่แหละคือโอสถยาขนานเอก
