บทที่ 14 รูปลักษณ์เต๋าเลือนราง
Updated: Nov 12, 2021
มองไม่เห็นเรียกว่า "ไร้รูปลักษณ์"
ฟังไม่ได้ยินเรียก "ไร้เสียง"
คลําดูแล้วไม่พบเรียกว่า "ไร้ตัวตน"
ทั้งสามด้านนี้มิอาจซักไซ้ไล่เลียง
เพราะรวมเป็นหนึ่งเดียว มิอาจแบ่งแยก
ด้านบนไม่สุกใส ด้านล่างไม่มืดมัว
เนืองอนันต์จนมิอาจบอกลักษณะ
ย้อนสู่ความว่างเปล่า
เรียกว่า ภาวะไร้รูปลักษณ์
ไม่มีภาพของวัตถุนี้ เรียกเลือนราง
เรียกว่า ภาวะไร้รูปลักษณ์
เมื่ออยู่ต่อหน้ามองไม่เห็นส่วนหัว
ครั้งเดินตามหลังกลับไม่เห็นส่วนหาง
นําเต๋าแต่โบราณ รับใช้คนปัจจุบัน
รับรู้ต้นธารจักรวาล จึงเรียกว่า กฎแห่งเต๋า
คติธรรม
1) สิ่งที่ผู้มีธรรมะยึดถือคือเจตนารมณ์แห่งมหาเมตตา ซึ่งขอให้มวลมหาชนได้พ้นจากความทุกข์ ไม่แสวงความสงบสุขเพื่อตนเอง
2) เต๋านั้นไร้รูปลักษณ์ ไร้เสียงและไร้ตัวตน เมื่อเรารู้จักละทิ้งรูปลักษณ์ เสียงและตัวตนแล้ว คุณงามความดีที่สั่งสมจะไม่รั่วไหล
3) ผู้มีผลบุญไม่พอมักจะได้ยินเรื่องทะเลาะวิวาท ผู้มีผลบุญเพียงพอ จะไม่เคยได้ยินเรื่องทะเลาะวิวาทเลย
4) คนเราอยู่ท่ามกลางธรรมะ และธรรมะอยู่ในตัวฉัน จึงจะมีมาตรการสอดคล้องกับเหตุการณ์ได้ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่จำเป็นต้องอยู่ข้างหน้าหรือข้างหลัง ข้างซ้ายหรือข้างขวา ถ้าลังเลไม่แน่ใจจะเสียเวลาขบคิด
5) มิต้องเป็นห่วงว่า ปัจจุบันจะมีสถานการณ์อย่างไร สามารถใช้ธรรมะมาเข้มงวดตนเองได้ เข้าใจและสลายด้วยธรรมะ จึงจะสามารถมีอิสระได้มากมาย
