บทที่ 3: ใช้อู๋เหวยอย่างชาญฉลาด

ไม่ยกย่องแต่ผู้ปรีชา
ประชาชนจะไม่ยื้อแย่ง
ไม่สนใจสิ่งหายาก
ผู้คนไม่เป็นโจร
ไม่มีสิ่งยั่วยุ
จิตใจไม่ว้าวุ่น
วิธีของอริยบุคคล
ทำให้จิตผู้คนบริสุทธิ์
ใส่ใจชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน
ลดการแก่งแย่ง
เสริมสุขภาพ
ทำให้ผู้คนไม่ฟุ้งซ่านไม่โลภเป็นนิตย์
ผู้ฉลาดก็มิบังอาจก่อกรรมทำเข็ญ
ปฏิบัติอย่างอู๋เหวย
บริหารได้ทุกเรื่อง
คติธรรม
1) เราใช้ชีวิตรวมหมู่ในสังคม ความตั้งใจและอารมณ์มักถูกกระทบ
และรบกวนจากสังคม เนื่องจากจิตใจฟุ้งซ่านทำให้จิตดั้งเดิมที่
บริสุทธิ์กลายเป็นสับสนและหุนหันพลันแล่น แล้วเราจะต้านทาน
สิ่งรบกวนและผลกระทบจากความคิดสับสนที่มีเหตุมาจากภายนอก
ได้อย่างไร
2) ประการแรก ฝึกฝนด้วยตนเอง ต้องสันทัดจำแนกผิดถูกของ
ความคิดสับสน ทำการกลั่นกรองด้วยจิตสำนึกโดยเป็นไปเอง
ตามธรรมชาติ
ประการที่สอง สร้างฉากกั้นต้านทานความผิดถูก โดยไม่รับ
ไม่ติดพันและไม่ร่วม ทำให้ความคิดสับสนไม่อาจแทรกเข้าได้
ประการที่สาม บ่มเพาะตนเป็นผู้มีทำนองคลองธรรมสามารถ
แก้ไขปัญหาได้ดี
3) มีความโลภมาก ทิ้งแก่นเอากระพี้ แสวงแต่เรื่องขี้ผง เพราะ
สนใจเรื่องเล็กทำให้เสียการใหญ่
4) อย่าได้หลงใหลต่อสมญานามในมโนภาพ จิตใจต้องสงบ อย่าได้
สับสน
5) วิญญาณสำคัญของคัมภีร์ “เต้าเต๋อจิง” คือการฝึกฝนจิต การปรับ
โภชนาการเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของการบำรุงรักษาสุขภาพ
อย่าได้สนใจกับคำพูดที่ไม่ถูกใจมากเกินไป สุขภาพร่างกายเป็น
เรื่องที่สำคัญที่สุด
6) อย่าถือว่าตนฉลาด อย่ามัวทำงานเพื่อชื่อเสียงและผลประโยชน์
และจุดมุ่งหมาย
7) อย่ามัวคิดคำนึงแต่ผลได้ บางครั้งการเป็นไปเองตามธรรมชาติก็
คือตำรับยาที่แท้จริง