top of page

คำอำนวยพร 17 เมษายน 2565



** คนเราต้องมีความคิดที่สื่อเชื่อมกับมูลราก เมื่อเข้าใจมารดา จึงรู้จักลูก


คัมภีร์เต้าเต๋อจิงบทที่ 52 ที่กล่าวว่า “รู้ว่ามารดาเป็นเช่นไร ก็อนุมานถึงลูกได้ เมื่อรู้ว่าเป็นลูก จึงรักษามารดาไว้” หมายความว่า เมื่อเข้าใจต้นสายจึงจะรู้ถึงปลายเหตุ เมื่อเข้าใจเต๋าที่ยิ่งใหญ่ จึงจะเข้าใจปรากฏการณ์ทั้งหลายที่พัฒนาจากต้นธารได้อย่างชัดเจน เมื่อรู้ว่าตนเป็นลูก เป็นปลายกิ่งก้าน มนุษย์จะไม่ละทิ้งมูลรากเพื่อไปไล่ตามปลายกิ่งก้าน แต่จะพยายามหวนคืนสู่มูลราก


เต๋าครอบคลุมทั้งมีและไม่มี ชีวิตมนุษย์ประกอบขึ้นจากวัตถุที่มีรูปและจิตวิญญาณที่ไร้รูป คนส่วนมากใส่ใจแต่ส่วนที่เป็นวัตถุ มองการบำรุงรักษาร่างกายเป็นทั้งหมดของชีวิต ใช้การกระตุ้นประสาทสัมผัสเป็นแหล่งกำเนิดความสุข แต่หากไม่มีกำลังเสริมของจิตวิญญาณอันไร้รูป ร่างกายจะเป็นเพียงทาสของความทะยานอยาก ความสุขจะเหมือนดอกไม้ที่บานแล้วร่วงโรยอย่างรวดเร็ว


มูลรากของมนุษย์อยู่ในเต๋า ดินของชีวิตอยู่ท่ามกลางความสัมพันธ์ หากตัดรากถอนโคน ใครก็ไม่อาจคงอยู่ได้ยาวนาน ชีวิตเปรียบเสมือนต้นไม้ ต้องหยั่งรากลึกลงดินให้มั่นคง กิ่งก้านใบจึงจะเติบโตสูงเสียดฟ้าได้ คนเราก็ต้องมีความคิดที่สื่อเชื่อมกับมูลราก เมื่อรู้ว่ามารดาเป็นเช่นไรจึงจะอนุมานถึงลูกได้ บิดามารดาคือมูลรากของชีวิต เมื่อความสัมพันธ์กับบิดามารดาสมบูรณ์แล้ว จึงจะสื่อเชื่อมกับเต๋าธรรมชาติได้ หากคนเราไม่กตัญญู การคิดจะฝึกฝนคุณธรรมหรือเข้าใกล้เต๋าคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ฝึกฝนคุณธรรมคือการมุ่งสู่ไร้อัตตา คนเรายิ่งไร้อัตตา ยิ่งมีความสุข ยิ่งไร้ส่วนตน จะยิ่งสร้างความสำเร็จให้ส่วนรวมได้ เดิมทีชีวิตคนเราไม่มีภัยพิบัติ เมื่อมีความทะยานอยากส่วนตนมาก จึงมีภัยพิบัติเกิดขึ้น เมื่อเรารู้ถึงความเร้นลับของจักรวาล ยืนอยู่ที่ต้นธารของกาลเทศะ เราจะพบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างชัดเจน ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร ความปรองดองมีอยู่แต่เดิมแล้ว ขอเพียงตามหาเต๋าในดวงจิตกลับคืนมา ความผาสุกเป็นของเราแต่แรกแล้ว


คำอำนวยพรอรุณสวัสดิ์

จากอาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ * * *


ขอนำส่งการแบ่งปันเกี่ยวกับคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" บทที่ 51 และคำอำนวยพรในเดือนแห่งการสื่อเชื่อม


[เมื่อพลังเต๋าถูกปลุกให้ตื่น ชีวิตย่อมมีปาฏิหาริย์ขึ้นแน่นอน]


3.2 เมื่อพลังเต๋าถูกปลุกให้ตื่น ชีวิตย่อมมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแน่นอน


ปัญหามากมายในสังคมปัจจุบัน มูลเหตุมักจะมิได้อยู่ที่ระบบและสิ่งแวดล้อม แต่เพราะจิตใจคนมีความเอนเอียง เช่น เต้าเต๋อตกต่ำ ขาดความน่าเชื่อถือ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาของจิตใจคน


การเข้าใจเต๋าและฝึกฝนคุณธรรม หากพูดเพียงอย่างเดียวจะเป็นการบำรุงจิตใจ หากลงมือปฏิบัติจริง จะเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิต ชีวิตคือการรวมตัวและแยกตัวของพลังงาน เมื่อมีพลังงานเต็มเปี่ยมเราก็จะเปี่ยมด้วยพลังชีวิต จิตใจสดชื่น ทั้งยังมีแรงบันดาลใจ คิดสิ่งใดสมความปรารถนา หากขาดพลังงานจะเสื่อมโทรม หมดอาลัยตายอยาก ความสัมพันธ์ตึงเครียด ทำงานประสบอุปสรรคและล้มเหลว เสียสุขภาพ มึนงง และโง่เขลา... ผลสุดท้ายต้องลงจากขบวนรถชีวิตไปด้วยความทุกข์ทรมานแน่นอน


เมื่อเจ็บป่วย การหาหมอเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่มีบางโรคที่รับประทานยาก็ไม่อาจรักษาได้ เราจะโทษว่ายาไม่มีประสิทธิภาพก็ไม่ได้ เพราะต้นเหตุของโรคอาจอยู่ที่การคิด การคิดที่ต่างกันสื่อเชื่อมกับพลังงานในระดับที่ต่างกัน อันที่จริง ในร่างกายมนุษย์มีพลังอันแรงกล้าในการเยียวยาตนเองโดยที่เราไม่อาจจินตนาการได้ ซึ่งเป็นศักยภาพที่ทุกคนมีพร้อมมาแต่กำเนิด จะไม่เพิ่มขึ้นหรือหายไปตามอายุ แต่จะยิ่งแฝงเร้นมากขึ้นหากฝ่าฝืนเต๋าและเหินห่างคุณธรรม


การวิจัยค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่า การรักษาของแพทย์เป็นเพียงการกระตุ้นให้ร่างกายมนุษย์รักษาตัวเองเท่านั้น ท้ายสุดกุญแจสำคัญของการรักษาโรคมิใช่ยา แต่เป็นตัวมนุษย์นั่นเอง ระบบรักษาตัวเองของมนุษย์ ได้แก่ ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบต่อต้านสิ่งแปลกปลอม ระบบฟื้นฟู ระบบควบคุมต่อมไร้ท่อ และปฏิกิริยาตอบสนอง เป็นต้น นี่คือ “หมอเทวดา” ที่อยู่ในร่างกายมนุษย์ สามารถตรวจจับสัญญาณผิดปกติ และปรับร่างกายได้อย่างทันท่วงที สร้างความสมดุลและเยียวยารักษา


การที่จะปลุก “หมอเทวดา” ภายในตัวเราให้ตื่นขึ้น มีอยู่ 5 วิธีที่มีประสิทธิภาพมาก ได้แก่ “ยิ้มแย้มอยู่เสมอ เคารพยำเกรงอยู่เสมอ ชำระล้างอยู่เสมอ สำนึกบุญคุณอยู่เสมอ และยึดมั่นในคุณธรรมอยู่เสมอ” หากคนเรายอมรับความบกพร่องได้ รู้จักการสำนึกผิด และแก้ไขความผิดอย่างกระตือรือร้น ทันทีที่อุปสรรคในใจได้รับการชำระล้าง ท่อส่งพลังงานแห่งชีวิตจะปลอดโปร่ง ความสัมพันธ์จะปรองดอง การงานก็ราบรื่น ชีวิตจะมีความผาสุก ขอเพียงพลังของเต๋าในดวงจิตตื่นขึ้น ชีวิตย่อมมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแน่นอน


อาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ

วันที่ 17 เมษายน 2565

(เผยแพร่วันที่ 1533)

* * *


** 人要有连根思维,得母才能知子。


如道德经第52章所说的“既得其母,以知其子;既知其子,复守其母” 所说,得本才能知末;了悟大道,才清楚从本源衍生的一切现象。既然知道自己是子、是枝末,人就不再舍本逐末,而将努力回到本源。


道含有无,人类的生命也由有形物质与无形心灵构成,大部分人只关注物质部分,以保养身体为生命的全部,以感官刺激为快乐的源泉。但若没有无形心灵的赋能,身体只是欲望的奴隶,快乐也只是昙花一现。


人的根在道中,生命的土壤在关系里,折根断本,谁也无法长久。生命如树,把根扎向大地深处,枝叶才能伸向天空。。人也要有连根思维,得母才能知子。父母是生命的根,圆满了与父母的关系,才能链接天道。人若不孝顺,想修德近道是不可能的。


修德,就是趋向无我。一个人越无我,越快乐;越无私,越能成其大私。人生本无患,私欲多了,才生出祸患。知晓宇宙的奥秘,站在时空的源头,我们会发现:一切清清楚楚,根本无需纠结。和谐本来就在,只要找回心中的道,幸福原本就属于我们。

早安!* * *


17 唤醒心中道的力量,生命必有奇迹发生

《道德经》第51章暨连接月祝福连载17


八、道的力量被唤醒,生命必有奇迹发生。


现代社会中的很多问题,根源往往不在制度、不在环境,而是人心出了偏。比如道德滑坡、诚信缺失,这都是人心的问题。


悟道修德,若只是说说,就是心灵鸡汤;如果落地践行,则是生命蜕变。生命是能量的聚合离散,能量充沛,人就生机磅礴、神清气爽,而且灵感迸发、心想事成;能量缺失,人就衰败萎靡、关系紧张、做事挫败、健康透支、昏沉愚昧……最后的结局必定是在痛苦中走下生命列车。


有病看医生,这是对的。但有些病,吃药也调整不过来,往往不能怪药不灵,因为源头可能在思维上,不同思维联接着不同层级的能量。其实,人体中有我们想象不到的强大自愈力,这是每个人与生俱来的潜能,不会因年龄增大而消失,但会因背道离德而隐匿。


科学研究表明,医生治病只是激发人体的自愈力而已,最终治好疾病的关键不是药,而是人自己。人体自愈系统包括免疫、排异、修复、内分泌调节和应激能力等,这是人体自带的“神医”,能敏感地捕捉到异常信号,及时调动机体,进行平衡和疗愈。


要唤醒我们内在的“神医”,有五个方法很有效:总是微笑,总是敬畏,总是清理,总是感恩,总是立德。人若能接受不足、觉知忏悔、积极改错,内心障碍一旦清除,生命的能量通道就会通畅——关系将和谐,做事将顺利,人生将幸福。只要心中道的力量被唤醒,生命必有奇迹发生。


赵妙果,2022年4月17日,第1533天

3 views0 comments
bottom of page