** “เต๋าให้กำเนิดสรรพสิ่ง คุณธรรมหล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง วัตถุมีรูป เหตุการณ์ประสานให้สำเร็จ” คือศาสตร์แห่งความสำเร็จที่สำคัญ เป็นพื้นฐาน และลึกซึ้งที่สุด ทั้ง 4 ประโยคนี้คือการนำกฎของจักรวาล ตรรกะของธรรมชาติ และขั้นตอนการพัฒนาของสรรพสิ่งมาแสดงให้เห็นต่อหน้ามนุษย์ในยุคปัจจุบัน ทุกคนสามารถให้สิ่งเหล่านี้มาออกแบบชีวิตที่ดีที่สุด เมื่อมีภาพพิมพ์เขียวที่ถูกต้อง กว้างใหญ่ และชัดเจนแล้ว เราจึงจะมีชีวิตที่ดีได้
คำอำนวยพรอรุณสวัสดิ์
จากอาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ * * *
ขอนำส่งการแบ่งปันเกี่ยวกับคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" บทที่ 50 และคำอำนวยพรในเดือนแห่งการท้าทาย
[วิธีที่ดีที่สุดในการยกระดับสภาวจิตวิญญาณคือการสำรวจภายในจิตของตน]
วิธีที่ดีที่สุดในการยกระดับสภาวจิตวิญญาณคือ การสำรวจภายในจิตของตนในทุกปัจจุบันขณะ
การฝึกปฏิบัติมิใช่การฝึกฝนอดีตและอนาคต เวลาคือแนวคิด 3 มิติ หากทะลายแนวคิดนี้ไม่ได้ สภาวะของมนุษย์จะยกระดับไม่ได้ การฝึกปฏิบัติคือการฝึกฝนปัจจุบัน เมื่อปัจจุบันหวนกลับมาที่จิตส่วนลึกภายใน ปัจจุบันจะหลุดพ้น ในชีวิตคนเรา หากเอาชนะจิตใจตนเองไม่ได้ จะชนะเรื่องทั่วหล้าได้อย่างไร
ต้องฝึกฝนรวบรวมจิตภายในของตนอย่างต่อเนื่อง และสร้างเป็นนิสัย คนเราจึงจะสามารถรวบรวมแก่นสาร พลังชีวิตและจิตวิญญาณกลับมาได้หมด เช่นเดียวกับหลอดไฟ ที่ส่องแสงสว่างได้จำกัดในยามปกติ แต่หากรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่เดียว จะเปรียบเสมือนแสงเลเซอร์ เมื่อยิงออกไปจึงสามารถเปลี่ยนแปลงโลกวัตถุได้ มนุษย์มีพลังในการแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานเช่นนี้ทุกคน มนุษย์ต้องเชื่อมั่นในตนเอง
พลังของคัมภีร์ “เต้าเต๋อจิง” อยู่ที่การศึกษาจริงใช้จริง พูดความเป็นจริง ฝึกฝนจริง และพิสูจน์จริง คัมภีร์จะล้ำลึกเพียงใด นี่คือการยกตัวอย่างของครูบาอาจารย์เท่านั้น มีเพียงการประยุกต์ใช้และพลิกแพลงในการดำเนินชีวิต เมื่อแก้ไขปัญหาได้แล้ว จึงจะเป็นการทำโจทย์ประยุกต์ได้ เหตุใดอาจารย์ผู้สอนคนเดียวกันแต่นักเรียนมีผลการเรียนแตกต่างกัน เพราะหลายคนศึกษาเพียงทฤษฎี แต่ไม่เคยนำไปลงมือฝึกฝนตนเอง คัมภีร์และอาจารย์เป็นเพียงนิ้วมือที่ชี้ไปยังดวงจันทร์ สิ่งที่เราต้องการมิใช่นิ้วมือ แต่เป็นการสอยดวงจันทร์ลงมา คนเราต้องเปล่งแสงด้วยตนเอง มิใช่อยากได้แสงที่สะท้อนหักเหจากผู้อื่น
การฝึกปฏิบัติเหมือนการทำงาน เมื่อพายเรือทวนน้ำต้องออกแรงถ่อ มิฉะนั้น จะถอยหลังไปไกลหากผ่อนแรงเพียงเล็กน้อย โลกนี้ไม่มีความสำเร็จใดได้มาโดยง่าย และไม่มีพลังใดที่หล่นลงมาจากฟากฟ้า มีเพียงผู้มีทิศทางถูกต้อง ไม่เร่งรีบ ไม่ร้อนรน และพยายามฟันฝ่าอุปสรรคไปข้างหน้า จึงสามารถไปถึงฝั่งที่ใฝ่ฝันท่ามกลางการสั่งสมวันเวลาได้ ภูเขาจะสูงเพียงใด หากปีนขึ้นไปเรื่อย ๆ ย่อมไปถึงยอดได้ หนทางไกลเท่าใด หากเดินต่อไปเรื่อย ๆ ย่อมต้องบรรลุถึงที่หมายปลายทางแน่นอน
อาจารย์จ้าวเมี่ยวกว่อ
วันที่ 26 มีนาคม 2565
(เผยแพร่วันที่ 1510)
* * *
** “道生之，德畜之，物形之，势成之”这十二个字，是世上最重要、最根本、最深刻的成功学。这十二个字将宇宙规律、自然逻辑、万物程序全部呈现在人类眼前，每个人都能以此来为人生做一个最佳的顶层设计。有了正确、恢弘、清晰的蓝图，我们才能拥有美好人生。
早安！* * *
26提升心灵境界最好的方法就是内观自心
《道德经》第50章分享暨挑战月祝福》连载26
提升心灵境界，最好的方法是：每个当下，内观自心。
修行不是修过去未来，时间是三维概念，突破不了这个概念，人的境界就提不上去。修行是修当下，当下回到内心，当下就突破。人生中，不能胜寸心，安能胜苍穹？
不断训练自己聚焦内心，形成习惯，人就能把发散的精气神全部收回来，就像一个电灯泡，平时虽有光芒，但散射出去，亮度有限。如今所有力量聚集一处，就像激光一样，一旦发射，就能改变物质世界。这种能量转换的力量，每个人都有，人一定要相信自己。
《道德经》的力量在于实学实用、实话实说、实修实证。经文再妙，这是老师讲例题；只有到生活中灵活运用，解决了问题，那才是会做应用题。为什么同一个老师教出的学生成绩不同？因为很多人只是纸上谈兵，从来没有去实操训练自己。经典和老师都是指月的手指，我们要的不是手指，而是摘下月亮。人要自己发光，而不是总想折射别人的光芒。
修行与做事一样，需要逆水行舟用力撑，否则一篙松劲退千寻。世上，没有一蹴而就的成功，也没有从天而降的力量。只有那些方向正确、不急不躁、砥砺奋进的人，才能在日积月累中抵达梦想的彼岸。山再高，往上攀，总能登顶；路再长，走下去，定能到达。
赵妙果，2022年3月26日，第1510天